- เราจะเห็นได้ว่าหลังจากจบยุคโควิด มีคนทำงานออนไลน์กันมากขึ้นเรื่อยๆและมีคนจำนวนมากที่ทำงานออนไลน์แบบไม่เข้าออฟฟิศ แต่นิยมทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วยซึ่งในสากลเรียกว่า นักท่องเที่ยวกลุ่ม Digital Nomadนักท่องเที่ยวกลุ่ม Digital Nomad สองอันดับแรกที่มีมากที่สุดในโลกคือ อเมริกันและสหราชอาณาจักร ผมขอขยายความให้เห็นภาพกว้างขึ้นดังนี้ คำว่า Digital Nomad แปลว่าคนเร่ร่อนดิจิทัล ซึ่งถูกแปลมาจากคำว่า “ดิจิทัล (Digital)” หมายถึง ความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และคำว่า “เร่ร่อน (Nomad)” หมายถึง กลุ่ม/บุคคลที่มีการตั้งถิ่นฐานแบบไม่ถาวร Digital Nomad เป็นการปรับรูปแบบการทำงานใหม่ซึ่งอนาคตสถานที่ทำงานจะถูกปรับเปลี่ยนไปสู่รูปแบบดิจิทัล (Digital) มากขึ้น สามารถเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ทั่วโลกเพื่อพักผ่อนร่วมไปกับการทำงานโดยไม่จำเป็นต้องประจำอยู่ออฟฟิศแบบเดิมและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่ออิสรภาพจากข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ และผลตอบแทนรายได้มาจากต่างประเทศ Digital Nomad แตกต่างจากนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆอย่างไร คือ จะมีความคล่องตัวในการโยกย้ายถิ่นพำนักสูงและความสนใจในงานสูงสามารถเข้างานได้จากทุกที่โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเข้าออฟฟิศ ส่วนมากจะชอบทำงานที่บ้าน, ในที่พักของตนเอง หรือ Co-living space
- Digital Nomad สามารถแบ่งออกได้ 4 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. Remote workers
2. Freelancers
3. Online business owners
4. Passive income investors - ผลการสำรวจจากเว็บไซต์ต่างๆ ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับจากการสำรวจจุดหมายปลายทางของ Digital Nomad ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาและพื้นที่ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวกลุ่ม Digital Nomad มาในเมืองไทย คือ เชียงใหม่ เกาะพะงัน ภูเก็ตและกรุงเทพ ตอนนี้ผู้ประกอบการไทยก็ต้องเตรียมความพร้อมให้มากขึ้น เพราะภายใน 5 ปีนี้จากงานวิจัยพบว่า จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่าตัวแน่นอนครับ
บทความโดย : ดร.พิสิทธิ์ พิพัฒน์โภคากุล